งาน PM เครื่องเจน งานบำรุงรักษาเชิงป้องกันเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

งาน  PM เครื่องเจน งานบำรุงรักษาเชิงป้องกันเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 

( Preventive Maintenance Generator) 

  คือการดูแลและตรวจเช็กเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าเครื่องปั่นไฟ) ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้เครื่องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอและลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฉุกเฉิน 

งานนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะกับสถานที่ที่ต้องใช้ไฟฟ้าตลอดเวลาและมีเครื่องปั่นไฟสำรอง เช่น โรงพยาบาล ศูนย์ข้อมูล ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม เพราะถ้าเครื่องเกิดขัดข้องขึ้นมา อาจส่งผลเสียร้ายแรงได้ 

รายละเอียดของงาน  PM เครื่องเจน 

งาน  PM จะทำเป็นประจำตามรอบเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ เช่น ทุกเดือน , ทุก  3 เดือน , ทุก  6 เดือน หรือตามชั่วโมงการทำงานที่กำหนดไว้ โดยงานหลักๆ จะประกอบด้วย: 

  • เปลี่ยนถ่ายของเหลว: เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง , น้ำมันเชื้อเพลิง , และน้ำยาหล่อเย็นตามรอบ
  • เปลี่ยนไส้กรอง: เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง , ไส้กรองอากาศ และไส้กรองเชื้อเพลิง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • ตรวจสอบระบบไฟฟ้า: ตรวจสอบแบตเตอรี่ , สายไฟ , ขั้วต่อ และเบรกเกอร์ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าพร้อมใช้งาน
  • ตรวจสอบระบบเชื้อเพลิง: ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำมันเชื้อเพลิงและท่อต่างๆ
  • ทดสอบการทำงาน: ทดสอบเดินเครื่องเปล่า ( No Load Test) หรือทดสอบเดินเครื่องพร้อมโหลดจริง ( Load Bank Test) เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถจ่ายไฟได้ตามปกติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
  • ตรวจสอบทั่วไป: ตรวจสอบความแน่นของน็อต สกรู , ความสึกหรอของสายพาน , และทำความสะอาดเครื่องโดยรวม

การทำ  PM อย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและไม่สะดุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟดับ 
 

s-2564250-0.jpg

ทำไมต้อง  PM เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 

การทำ  PM (Preventive Maintenance) หรือการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเสียหายแบบไม่คาดคิด มาดูเหตุผลหลัก ๆ กันเลยครับ: 

🔧 1. ยืดอายุการใช้งานของเครื่อง การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ทำให้เครื่องใช้งานได้นานขึ้น 

2. ลดความเสี่ยงจากการหยุดทำงานฉุกเฉิน เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามักใช้ในสถานการณ์ที่ไฟฟ้าขัดข้อง หากเครื่องเสียในเวลานั้นอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือความปลอดภัย 

💰 3. ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว การซ่อมแซมฉุกเฉินมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการบำรุงรักษาเป็นประจำ และอาจต้องเปลี่ยนอะไหล่ราคาแพง 

📋 4. ตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพ PM ช่วยให้สามารถตรวจสอบการทำงานของระบบ เช่น น้ำมันเครื่อง ระดับน้ำหล่อเย็น แบตเตอรี่ ฯลฯ เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 

🛡️ 5. ป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย เครื่องที่ไม่ได้รับการดูแลอาจเกิดไฟไหม้หรืออุบัติเหตุจากการรั่วไหลของน้ำมันหรือเชื้อเพลิง 

PM เครื่องกำเนิดไฟฟ้าควรทำบ่อยแค่ไหน ?

การทำ  PM (Preventive Maintenance) เครื่องกำเนิดไฟฟ้าควรมีความสม่ำเสมอและวางแผนตามระยะเวลาและชั่วโมงการทำงานของเครื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น โดยทั่วไปมีแนวทางดังนี้ครับ: 

🗓️ 1. รายเดือน ( Monthly) 

  • ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
  • ตรวจสอบแบตเตอรี่และระบบชาร์จ
  • ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำมันและน้ำหล่อเย็น
  • ทดสอบการสตาร์ทเครื่องและการทำงานเบื้องต้น

⏱️ 2. รายไตรมาส หรือทุก 250 ชั่วโมงการทำงาน 

  • เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง
  • ตรวจสอบระบบระบายความร้อน
  • ตรวจสอบระบบเชื้อเพลิงและทำความสะอาดถังน้ำมัน
  • ตรวจสอบสายไฟและขั้วต่อ

🛠️ 3. รายปี หรือทุก  500–1,000 ชั่วโมงการทำงาน 

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
  • เปลี่ยนไส้กรองอากาศ
  • ตรวจสอบและปรับตั้งวาล์ว (ถ้าจำเป็น)
  • ตรวจสอบระบบควบคุมและเซนเซอร์ต่าง ๆ
  • ทดสอบโหลดจริง ( Load Test)

📌 หมายเหตุ: 

  • ความถี่ในการ  PM อาจปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม เช่น ถ้าเครื่องอยู่ในพื้นที่ฝุ่นเยอะหรืออุณหภูมิสูง อาจต้องตรวจสอบบ่อยขึ้น
  • ควรมีบันทึกการบำรุงรักษาเพื่อใช้ติดตามและวางแผนในอนาคต

 

 

แบ่งปัน: