การกรองน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า

การกรองน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า  

การกรองน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ( Transformer Oil Filtration) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของหม้อแปลงไฟฟ้า โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ออกจากน้ำมัน

วัตถุประสงค์ของการกรองน้ำมันหม้อแปลง

น้ำมันหม้อแปลงมีบทบาทสำคัญ  2 ประการ ได้แก่    เป็นฉนวนไฟฟ้า ( Electrical Insulation) และ    เป็นสารหล่อเย็น ( Coolant)เมื่อเวลาผ่านไป น้ำมันจะเสื่อมสภาพลงเนื่องจากความชื้น ฝุ่นละออง แก๊ส และอนุภาคต่างๆ ที่ปะปนอยู่ ซึ่งส่งผลให้คุณสมบัติในการเป็นฉนวนลดลง และอาจทำให้หม้อแปลงเกิดความเสียหายได้

การกรองจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ:

ขจัดความชื้น ( Moisture Removal): น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี เมื่อปนเปื้อนในน้ำมันจะลดประสิทธิภาพความเป็นฉนวน การขจัดความชื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ขจัดแก๊ส ( Gas Removal):  แก๊สที่ละลายอยู่ในน้ำมัน เช่น ไนโตรเจน ออกซิเจน และไฮโดรเจน อาจทำให้เกิดฟองอากาศใต้แรงดันไฟฟ้าสูง ซึ่งจะลดความแข็งแรงของฉนวน

กำจัดอนุภาคของแข็ง ( Solid Particle Removal):  อนุภาคเล็กๆ เช่น เศษกระดาษ เศษโลหะ หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่ปะปนอยู่สามารถลดค่าความเป็นฉนวน และอาจทำให้เกิดการลัดวงจรภายในได้

กระบวนการกรองน้ำมันหม้อแปลง  

โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการกรองน้ำมันหม้อแปลงจะประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

การกรองเบื้องต้น ( Preliminary Filtration): เป็นการกำจัดอนุภาคของแข็งขนาดใหญ่โดยใช้ไส้กรองที่มีความละเอียดระดับหนึ่ง เพื่อป้องกันการอุดตันของอุปกรณ์ในขั้นตอนถัดไป

การทำความร้อน ( Heating): น้ำมันจะถูกให้ความร้อนเพื่อลดความหนืด ทำให้ง่ายต่อการกำจัดความชื้นและแก๊สในขั้นตอนต่อไป

การแยกแก๊สและความชื้นในระบบสุญญากาศ ( Vacuum Dehydration and Degassing): น้ำมันจะถูกฉีดพ่นเป็นละอองหรือไหลผ่านตัวกลางในถังสุญญากาศ เพื่อให้ความชื้นและแก๊สระเหยออกมาและถูกดูดออกไป

การกรองละเอียด ( Fine Filtration):  เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อกำจัดอนุภาคขนาดเล็กที่ยังคงเหลืออยู่ เพื่อให้ได้น้ำมันที่สะอาดและมีคุณสมบัติที่ดีที่สุด

แล้วทำไมต้องกรองน้ำมันหม้อแปลงด้วย  

การกรองน้ำมันหม้อแปลงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะน้ำมันทำหน้าที่หลัก 2 อย่างคือ    เป็นฉนวนไฟฟ้า    และ    เป็นสารหล่อเย็น    การเสื่อมสภาพของน้ำมันจะทำให้หน้าที่เหล่านี้ลดลงอย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงของหม้อแปลงได้ครับ

สาเหตุที่น้ำมันหม้อแปลงเสื่อมสภาพ  

น้ำมันจะเสื่อมสภาพและปนเปื้อนเมื่อเวลาผ่านไปจากปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่:

ความชื้น:    น้ำที่เข้าไปในน้ำมัน ไม่ว่าจะจากอากาศหรือการรั่วซึม จะลดคุณสมบัติการเป็นฉนวนไฟฟ้าลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการลัดวงจรได้ง่ายขึ้น

อนุภาคของแข็ง:    เศษเล็กเศษน้อยจากฉนวนกระดาษหรือโลหะที่หลุดออกมาจะปะปนในน้ำมัน ทำให้ค่าความเป็นฉนวนลดลง และอาจทำให้เกิดการอาร์ค ( Arcing) หรือลัดวงจร

แก๊ส:    แก๊สที่ละลายอยู่ในน้ำมัน เช่น ออกซิเจนและไนโตรเจน จะทำให้เกิดฟองอากาศใต้แรงดันไฟฟ้าสูง ซึ่งจะทำลายฉนวนไฟฟ้าและลดประสิทธิภาพการระบายความร้อน

การออกซิเดชัน:    เมื่อน้ำมันสัมผัสกับออกซิเจน จะเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้เกิดกรดและสารตะกอน ซึ่งจะไปกัดกร่อนชิ้นส่วนโลหะและลดประสิทธิภาพของน้ำมัน

ประโยชน์ของการกรองน้ำมัน  

การกรองน้ำมันหม้อแปลงช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้และให้ประโยชน์ที่สำคัญดังนี้:

ยืดอายุการใช้งานของหม้อแปลง:    การรักษาน้ำมันให้สะอาดและมีคุณภาพดีอยู่เสมอจะช่วยให้หม้อแปลงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน

ป้องกันความเสียหาย:    การกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่อาจทำให้เกิดการลัดวงจรหรืออาร์ค ช่วยลดความเสี่ยงของการระเบิดหรือไฟไหม้ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงได้

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน:    น้ำมันที่สะอาดจะช่วยให้หม้อแปลงระบายความร้อนได้ดีขึ้นและมีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่แข็งแรง ทำให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ลดค่าใช้จ่าย:    การกรองน้ำมันเป็นการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการเปลี่ยนหม้อแปลงใหม่ทั้งลูก หรือการซ่อมแซมความเสียหายใหญ่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

โดยสรุปแล้ว  การกรองน้ำมันหม้อแปลงจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อรักษาประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของหม้อแปลงนั่นเองครับ

ขั้นตอนการกรองน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้ามีหลายขั้นตอนที่ซับซ้อนเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันสะอาดและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับใช้งาน แต่โดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วย  4  ขั้นตอนหลักดังนี้  

1.  การกรองเบื้องต้น  

ขั้นตอนนี้เป็นการกำจัดอนุภาคขนาดใหญ่ เช่น เศษโลหะ หรือตะกอนที่อาจหลุดลอกออกมาจากชิ้นส่วนภายในหม้อแปลง ขั้นตอนนี้จะใช้ไส้กรองที่มีความละเอียดระดับหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเหล่านี้เข้าไปอุดตันเครื่องจักรในขั้นตอนถัดไป  

2.  การทำความร้อน  

น้ำมันจะถูกให้ความร้อนในเครื่องกรอง เพื่อช่วยลดความหนืด ทำให้ง่ายต่อการกำจัดแก๊สและความชื้นในขั้นตอนต่อไป  

3.  การกำจัดแก๊สและความชื้น  

ขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างมาก โดยน้ำมันจะถูกดูดเข้าไปในถังสุญญากาศ เมื่อน้ำมันอยู่ในสภาวะสุญญากาศ แก๊สและความชื้นที่ปะปนอยู่จะระเหยออกมาและถูกเครื่องดูดสุญญากาศดูดออกไป  

4.  การกรองละเอียด  

เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อกำจัดอนุภาคขนาดเล็กที่ยังคงเหลืออยู่ รวมถึงอนุภาคขนาดเล็กในระดับไมครอนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า การกรองในขั้นตอนนี้จะใช้อุปกรณ์กรองที่มีความละเอียดสูง เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันที่ได้กลับมามีค่าความเป็นฉนวนที่สูงและมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานที่กำหนด  

หลังจากผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้ว น้ำมันจะถูกส่งกลับเข้าไปในหม้อแปลงอีกครั้งเพื่อใช้งานต่อไป ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของหม้อแปลงไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพ  

การกรองน้ำมันหม้อแปลงมีประโยชน์หลักๆ คือ    ช่วยยืดอายุการใช้งานของหม้อแปลง ป้องกันความเสียหาย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน  

line-album-1-250901-18.jpg

ประโยชน์ของการกรองน้ำมันหม้อแปลง  

1.  ยืดอายุการใช้งานของหม้อแปลง  

การกรองช่วยกำจัดสิ่งปนเปื้อน เช่น ความชื้น ,  แก๊ส ,  และอนุภาคของแข็งที่อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในหม้อแปลงเสื่อมสภาพลง การรักษาคุณภาพน้ำมันให้ดีอยู่เสมอจะช่วยให้หม้อแปลงไม่ต้องทำงานหนัก และลดการสึกหรอของฉนวนและชิ้นส่วนอื่นๆ ซึ่งส่งผลให้หม้อแปลงสามารถใช้งานได้นานขึ้น  

2.  ป้องกันความเสียหายรุนแรง  

น้ำมันที่ปนเปื้อนจะสูญเสียคุณสมบัติการเป็นฉนวนไฟฟ้า ทำให้มีโอกาสเกิดการลัดวงจรหรืออาร์ค ( Arcing)  ได้ง่าย ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายรุนแรง เช่น การระเบิดหรือไฟไหม้ได้ การกรองน้ำมันจึงเป็นการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่สำคัญ เพื่อความปลอดภัยของทั้งอุปกรณ์และบุคลากร  

3.  เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน  

น้ำมันที่สะอาดและมีคุณภาพดีจะช่วยให้หม้อแปลงระบายความร้อนได้ดีขึ้น และมีค่าความเป็นฉนวนไฟฟ้าที่สูง ทำให้หม้อแปลงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน และทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นและเสถียร  

4.  ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง  

การกรองน้ำมันมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการเปลี่ยนน้ำมันใหม่ทั้งระบบ และถูกกว่าการซ่อมแซมหม้อแปลงที่เสียหายอย่างมาก การบำรุงรักษาด้วยการกรองจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและประหยัดในระยะยาว  

สรุป  

สาเหตุหลักทั้งหมดที่ต้องกรองน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าสามารถสรุปได้เป็น 3  ข้อหลัก ๆ ดังนี้ครับ:    การเสื่อมสภาพของน้ำมัน    การปนเปื้อนจากภายนอก    และ    การเกิดปฏิกิริยาเคมีภายในหม้อแปลง  

1.  การเสื่อมสภาพของน้ำมัน ( Oil Degradation)  

น้ำมันหม้อแปลงจะเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลาและสภาพการทำงาน โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงและมีออกซิเจนปะปนอยู่ ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้เกิดกรดและสารประกอบต่างๆ ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการเป็นฉนวนและสารหล่อเย็นของน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง  

2.  การปนเปื้อนจากภายนอก ( External Contamination)  

สิ่งปนเปื้อนจากภายนอก เช่น    ความชื้น ( Moisture)    และ    ฝุ่นละออง ( Dust)    สามารถแทรกซึมเข้าไปในหม้อแปลงได้ ความชื้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำมันนำไฟฟ้าได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนฝุ่นละอองหรืออนุภาคแข็งขนาดเล็กที่ปะปนในน้ำมันก็สามารถลดคุณสมบัติทางไฟฟ้าและอาจทำให้เกิดการลัดวงจรภายในได้  

3.  การเกิดปฏิกิริยาเคมีภายในหม้อแปลง ( Internal Chemical Reactions)  

นอกจากสาเหตุจากภายนอกแล้ว ยังมีปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในหม้อแปลงเอง เช่น    การเกิดแก๊ส ( Gas Formation)    แก๊สที่ละลายในน้ำมันอาจเกิดจากความร้อนสูงหรือการเสื่อมสภาพของฉนวน ซึ่งแก๊สเหล่านี้เมื่อสะสมในปริมาณมากจะทำให้เกิดฟองอากาศใต้แรงดันไฟฟ้าสูง ซึ่งจะไปทำลายฉนวนและลดประสิทธิภาพของหม้อแปลงอย่างร้ายแรง  

การกรองน้ำมันจึงเป็นวิธีที่สำคัญในการกำจัดสาเหตุเหล่านี้ เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำมันให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ ช่วยให้หม้อแปลงทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ  

บริการปักเสา พาดสาย  

เราคือผู้เชี่ยวชาญด้าน    บริการรับปักเสาพาดสายไฟฟ้า    ตั้งแต่การวางแผนจนถึงการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงต่ำ-แรงสูง พร้อมทีมงานมืออาชีพและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้บริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และได้มาตรฐาน  

บริการของเรา  

รับปักเสาไฟฟ้า:    ทั้งเสาคอนกรีต เสาไม้ และเสาเหล็กตามความต้องการของงาน

รับพาดสายไฟฟ้า:    ติดตั้งระบบสายไฟฟ้าแรงต่ำและแรงสูง รวมถึงสายเคเบิล

ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า:    ตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับบ้านเรือนไปจนถึงขนาดใหญ่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

ย้ายแนวเสาไฟฟ้า:    ให้บริการย้ายเสาและสายไฟฟ้าเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์หรือพื้นที่

แก้ไขระบบไฟฟ้า:    แก้ไขระบบไฟฟ้าที่ชำรุด หรือปรับปรุงเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น

ทำไมต้องเลือกเรา ?  

ทีมงานมืออาชีพ:    เรามีทีมช่างที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์สูงในการทำงานด้านระบบไฟฟ้า

เครื่องมือที่ทันสมัย:    เราใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความรวดเร็วและปลอดภัยในการทำงาน

ความปลอดภัยสูงสุด:    เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงานเป็นอันดับแรก

บริการครบวงจร:    เราพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบระบบให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

หากท่านสนใจหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทันที เรายินดีให้คำปรึกษาและประเมินราคาหน้างานฟรีครับ  

บริการ  PM  เจน  

บริการ    PM  เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Preventive Maintenance)  หรือการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าภายในโรงงาน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์  

ทำไมต้องทำ  PM?  

ลดความเสี่ยงการเกิดเครื่องขัดข้อง:    การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

ประหยัดค่าใช้จ่าย:    การบำรุงรักษาเชิงป้องกันมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการซ่อมแซมใหญ่เมื่อเครื่องเสีย

ยืดอายุการใช้งาน:    การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น

เพิ่มประสิทธิภาพ:    ทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ

ขอบเขตการให้บริการ  PM  

เราให้บริการ  PM  ครอบคลุมทุกส่วนสำคัญของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ประกอบด้วย:  

1.  การตรวจสอบเครื่องยนต์ ( Engine Inspection)  

ตรวจสอบระดับของเหลว:    ตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อลื่น ,  น้ำยาหล่อเย็น ,  และน้ำมันเชื้อเพลิง

ตรวจสอบไส้กรอง:    ตรวจสอบและทำความสะอาด/เปลี่ยนไส้กรองอากาศ ,  ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และไส้กรองน้ำมันหล่อลื่น

ตรวจสอบระบบหล่อเย็น:    ตรวจสอบปั๊มน้ำ ,  สายพาน และระดับน้ำยาหล่อเย็น

ตรวจสอบระบบเชื้อเพลิง:    ตรวจสอบการรั่วซึมของท่อและข้อต่อต่างๆ

2.  การตรวจสอบระบบไฟฟ้า ( Electrical System Inspection)  

ตรวจสอบแบตเตอรี่:    ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ ,  ระดับน้ำกลั่น และกำลังไฟของแบตเตอรี่

ตรวจสอบชุดควบคุม ( Control Panel):    ตรวจสอบการทำงานของมาตรวัดต่าง ๆ และสัญญาณเตือน

ตรวจสอบชุดกำเนิดไฟฟ้า ( Alternator):    ตรวจสอบการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและค่าแรงดันไฟฟ้า

3.  การทดสอบการทำงาน ( Function Test)  

ทดสอบสตาร์ทเครื่อง:    ทดสอบการสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบอัตโนมัติและแบบแมนนวล เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องพร้อมใช้งานทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

ทดสอบการทำงานเต็มระบบ:    ทดสอบการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าภายใต้สภาวะจริง เพื่อประเมินประสิทธิภาพและตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

หากคุณสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ  PM  เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับโรงงานของคุณ สามารถติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาได้ครับ  

บริการระบบไฟฟ้าแรงสูง ทุกระบบ  

เรามีบริการเกี่ยวกับ    ระบบไฟฟ้าแรงสูง    ที่ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษา เพื่อตอบสนองความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรม อาคารขนาดใหญ่ และโครงการต่าง ๆ อย่างมืออาชีพ  

ขอบเขตการให้บริการ  

เรามีบริการครอบคลุมงานระบบไฟฟ้าแรงสูงทุกด้าน ได้แก่:  

ออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง:

ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าแรงสูง:    สำหรับการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายหลักเข้าสู่โรงงานหรือพื้นที่โครงการ

ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า:    ติดตั้งหม้อแปลงขนาดต่าง ๆ เพื่อแปลงแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่

ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมและป้องกัน:    ติดตั้งตู้สวิตช์เกียร์แรงสูง ( High Voltage Switchgear)  และอุปกรณ์ป้องกันระบบไฟฟ้าอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยและความเสถียรของระบบ

บำรุงรักษาเชิงป้องกัน ( Preventive Maintenance - PM):

PM  หม้อแปลงไฟฟ้า:    ตรวจสอบและบำรุงรักษาหม้อแปลง รวมถึงการกรองและเปลี่ยนน้ำมันหม้อแปลง ( Transformer Oil)  เพื่อยืดอายุการใช้งาน

ตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี:    ตรวจสอบความร้อนด้วยกล้องจับความร้อน ( Thermal Scan)  และตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดตามมาตรฐานการไฟฟ้าและกฎหมาย เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดปัญหา

ทดสอบอุปกรณ์:    ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ป้องกัน เช่น  Circuit Breaker  และ  Relay  เพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง

งานแก้ไขและปรับปรุงระบบ:

แก้ไขระบบไฟฟ้าขัดข้อง:    แก้ไขปัญหาการช็อต การลัดวงจร หรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้าแรงสูง

ปรับปรุงระบบไฟฟ้าเก่า:    ปรับปรุงและอัปเกรดระบบไฟฟ้าให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น

ทำไมถึงควรเลือกเรา ?  

เรามีทีมวิศวกรและช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงในการทำงานระบบไฟฟ้าแรงสูง มีความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานความปลอดภัย และใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ ปลอดภัย และตรงตามกำหนดเวลา เรายินดีให้คำปรึกษาและสำรวจพื้นที่หน้างานเพื่อประเมินความต้องการก่อนเริ่มงานจริงครับ  

แบ่งปัน: