AHU และ FCU คืออะไร?

Air Handling Unit (AHU)

Air Handling Unit หรือ AHU เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่หลักในการปรับอากาศและควบคุมคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดย AHU จะประกอบด้วยพัดลม แผ่นกรองอากาศ คอยล์เย็นหรือร้อน และระบบควบคุมต่างๆ AHU มักใช้ในอาคารขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรม

Fan Coil Unit (FCU)

Fan Coil Unit หรือ FCU เป็นอุปกรณ์ทำความเย็นและกระจายลมที่มีขนาดเล็กกว่า AHU โดยทำงานร่วมกับระบบท่อส่งน้ำเย็น (Chilled Water) หรือสารทำความเย็น (Refrigerant) เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องเล็กๆ หรือพื้นที่ที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิเป็นรายบุคคล เช่น ห้องพักโรงแรม ห้องประชุม หรือออฟฟิศขนาดเล็ก

ปัจจัยในการเลือก AHU และ FCU ให้เหมาะสมกับอาคารของคุณ

1. ขนาดของอาคารและการใช้งาน

• สำหรับอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิและคุณภาพอากาศในระดับสูง เช่น โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม หรือห้างสรรพสินค้า ควรเลือกใช้ AHU เพราะสามารถจัดการระบบอากาศได้ทั้งอาคาร
• สำหรับอาคารที่มีพื้นที่ขนาดเล็กหรือมีการแบ่งโซนการทำงาน เช่น ห้องพักโรงแรม หรือสำนักงานขนาดเล็ก FCU จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

2. ระบบปรับอากาศที่ใช้ร่วมกัน

• AHU มักเชื่อมต่อกับระบบ Chiller และท่อส่งลม เพื่อกระจายอากาศทั่วทั้งอาคาร
• FCU ใช้งานได้กับทั้งระบบ Chilled Water และระบบ Direct Expansion (DX) ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง

3. คุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality - IAQ)

• หากอาคารต้องการระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น HEPA Filter หรือ Activated Carbon Filter เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและเชื้อโรค AHU จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
• FCU สามารถติดตั้งแผ่นกรองอากาศได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับ AHU

4. การบำรุงรักษาและต้นทุนในการดำเนินงาน

• AHU ต้องการพื้นที่สำหรับติดตั้งที่ใหญ่กว่า และอาจมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงกว่า แต่สามารถรองรับระบบระบายอากาศได้ดีกว่า
• FCU มีขนาดเล็กและติดตั้งง่ายกว่า แต่ต้องดูแลรักษาบ่อยขึ้น เนื่องจากมีหลายยูนิตกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของอาคาร

5. การประหยัดพลังงาน

• AHU สามารถรวมระบบ Heat Recovery System เพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากอากาศที่ถูกปล่อยทิ้ง
• FCU ช่วยให้การปรับอากาศเป็นรายบุคคล ทำให้ไม่ต้องเปิดใช้งานระบบใหญ่ทั้งอาคาร ช่วยลดการใช้พลังงานในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งาน

คำแนะนำในการเลือก AHU และ FCU

1. วิเคราะห์ความต้องการของอาคาร – พิจารณาขนาด พื้นที่ และประเภทของผู้ใช้งาน
2. คำนึงถึงงบประมาณ – AHU มีต้นทุนสูงกว่า FCU แต่ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว
3. ตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบ HVAC – ควรเลือก AHU หรือ FCU ให้เข้ากับระบบ Chilled Water หรือ DX ที่มีอยู่แล้ว
4. คำนึงถึงข้อกำหนดด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม – หากอาคารต้องการมาตรฐานคุณภาพอากาศที่สูง ควรเลือก AHU ที่มีฟิลเตอร์คุณภาพสูง

สรุป

การเลือกใช้ AHU หรือ FCU ขึ้นอยู่กับขนาดอาคาร วัตถุประสงค์การใช้งาน คุณภาพอากาศที่ต้องการ และงบประมาณ AHU เหมาะสำหรับอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ในขณะที่ FCU เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและเหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเป็นรายโซน หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด การผสมผสานการใช้ทั้ง AHU และ FCU ในระบบเดียวกันอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด